ถังน้ำดื่ม, ถังน้ำ PC, ถังน้ำ PET, ถังน้ำ 18.9ลิตร, ถังน้ำ 5 แกลลอน

ถังน้ำดื่มแบบใดใส่น้ำได้ปลอดภัย

น้ำบรรจุถังในสมัยนี้มีตั้งแต่ใส่ถังน้ำใส ถังน้ำขุ่น ถังน้ำพลาสติกใสและแข็งนั้นทำจาก โพลีคาร์บอเนต (Polycarbonate หรือ PC) ถังน้ำพลาสติกเพท (Polyethylene Terephthalate หรือ PET) ซึ่งเป็นพลาสติกใส(สีถังจะเข้มกว่าถัง PC)และกรอบ และขวดพลาสติกขาวขุ่น (High-Density Polyethylene, HDPE) ซึ่งปัจจุบันมักไม่นิยมกันแล้ว

ถังน้ำพลาสติกใสนั้นดีกว่าพลาสติกสีขาวขุ่น อีกทั้งยังนำมารีไซเคิลและใช้ได้ทนทานกว่า เคยมีคนนำถังน้ำพลาสติกขุ่นไปทดลองวางไว้กลางแดดนาน ๆ พบว่าจะมีกลิ่นพลาสติกปนมากับน้ำ ทำให้น้ำเสียรสชาติ แม้ว่าน้ำจะไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคแต่ก็ทำให้คุณภาพของน้ำลดลง ไม่ว่าจะเป็นถังน้ำแบบใดก็ตามมีข้อแนะนำว่าไม่ควรเก็บไว้เกิน 2 ปี และถังน้ำที่เปิดแล้วไม่ควรเก็บนานเกิน 2 อาทิตย์ เพราะจุลินทรีย์และแบคทีเรียต่าง ๆ อาจเกิดขึ้นได้

หลายคนอาจสงสัยว่า ถ้านำถังน้ำพลาสติกมาใช้ซ้ำกันหลาย ๆ ครั้งจะมีสารพิษจากพลาสติกปนเปื้อนมาด้วย จริงหรือไม่ ซึ่งไม่เป็นความจริงเพราะสิ่งที่เป็นอันตรายคือแบคทีเรียที่เจริญเติบโตอยู่ ในถังน้ำที่ไม่ได้ทำความสะอาดก่อนนำไปใช้ครั้งต่อไปจึงควรล้างด้วยน้ำยาล้างจาน อ่อน ๆ คว่ำทิ้งไว้แล้วค่อยนำกลับมาใช้ใหม่

รู้อย่างนี้แล้ว ก่อนดื่มน้ำควรพิจารณากันสักนิด เลือกดูสักหน่อย รับรองว่าจะผ่านฤดูร้อนนี้ไปได้อย่างปลอดภัยและสดชื่น

น้ำดื่ม RO กับค่ากรดด่าง pH

ความปลอดภัยของน้ำดื่ม RO กับค่ากรดด่าง pH

โดยปกติน้ำบริสุทธิ์จะมีความเป็นกลางหรือมีค่า pH= 7 (ที่อุณหภูมิ 25 °C) เมื่อน้ำมีสารอื่นเจือปนจะทำให้ค่าความเป็นกรดด่างของน้ำ(pH) เปลี่ยนไป ในธรรมชาติสารที่มีผลทำให้ค่า pH ของน้ำเปลี่ยนแปลง คือสารกลุ่มคาร์บอเนต ไบคาร์บอเนต และคาร์บอนไดออกไซด์ ในน้ำที่มีค่าความเป็นกรดด่างต่างๆ จะมีสัดส่วนของสารทั้ง 3 ชนิดนี้แตกต่างกัน และเมื่อในน้ำมีสารประกอบในกลุ่มคาร์บอเนต และไบคาร์บอเนตสูง น้ำนั้นจะมีค่า pH สูง แสดงว่ามีความเป็นด่าง แต่ถ้าสัดส่วนของคาร์บอนไดออกไซด์ในน้ำมีสัดส่วนสูง จะทำให้ pH ของน้ำมีค่าต่ำหรือมีความเป็นกรดสูงขึ้น เนื่องมาจากคาร์บอนไดออกไซด์ทำปฏิกิริยากับน้ำเกิดเป็นกรดคาร์บอนิก เมื่อน้ำผ่านระบบรีเวอสออสโมซีส เมมเบรนจะสามารถกักกั้นอนุมูลคาร์บอเนต และไบคาร์บอเนตไว้เกือบทั้งหมด ส่วนคาร์บอนไดออกไซด์สามารถซึมแพร่ผ่านเมมเบรนได้ทั้งหมด จึงทำให้น้ำที่ผ่านการกรอง (permeate) มีสัดส่วนของคาร์บอนไดออกไซด์สูงกว่าปกติ จึงทำให้ pH ของน้ำที่ผ่านการกรองลดลง หรือมีความเป็นกรดเพิ่มขึ้น เนื่องจากสัดส่วนของคาร์บอนไดออกไซด์ต่อคาร์บอเนตสูงขึ้น

ส่วนน้ำทิ้งที่ถูกเมมเบรนกักกั้นจะมีสัดส่วนของคาร์บอเนตและไบคาร์บอเนตสูง จะทำให้น้ำในส่วนนี้มีค่า pH สูงขึ้น ดังนั้นน้ำที่ผ่านการกรองในระบบรีเวอสออสโมซีสบางครั้งอาจจะมีค่า pH ต่ำกว่า 5.8 ซึ่งมีฤทธ์เป็นกรดอ่อนอันเนื่องมาจากกรดคาร์บอนิคที่เกิดจากก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ ถ้าเรานำน้ำที่กรองจากระบบ RO มาดื่มโดยตรงก็จะทำให้รู้สึกแสบลิ้นเล็กน้อยคล้ายกับการดื่มน้ำโซดา ถ้าต้องการเพิ่มค่า pH ของน้ำที่กรองโดยระบบรีเวอสออสโมซีส อาจทำได้โดยการสเปรย์ (spray) น้ำให้ก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ที่ละลายอยู่ในน้ำ แยกตัวไปกับอากาศ (Air Stripping) หรือ ให้น้ำที่ผ่านระบบรีเวอสออสโมซีสผ่านไส้กรองถ่านกัมมันต์ ถ่านกัมมันต์จะทำหน้าที่ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ จะทำให้ค่าpH สูงขึ้นได้(มีตวามเป็นกลางมากขึ้น) ซึ่งไส้กรองถ่านกัมมันต์มักจะติดตั้งมาในระบบเครื่องกรอง RO ที่ใช้ตามบ้านเรือน มักจะมีไส้กรองคาร์บอนกรองน้ำหลังผ่านเมมเบรน เรียกว่า โพสต์คาร์บอน (post carbon) ติดตั้งมาด้วยถึงอย่างไรก็ตามค่า pH ของน้ำหลังผ่านระบบรีเวอสออสโมซีสต่ำกว่าปกติ มิใช่เกิดจากการมีกรดอนินทรีย์เจือปน แต่เกิดจากการที่น้ำนี้มีปริมาณสัดส่วนของคาร์บอนไดออกไซด์สูง จึงเกิดเป็นกรดคาร์บอนิค ดังนั้นถ้าจะดื่มน้ำนี้น่าจะไม่เป็นอันตราย เพราะมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับน้ำโซดาที่เราดื่มกัน ดังนั้นเราคงสบายกันได้แล้วนะครับ

ที่มา สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) www.tistr.or.th